กู้อารมณ์ ณ ภูทับเบิก
- The Gang
- Nov 6, 2018
- 1 min read
Updated: Dec 18, 2018
ทริปด่วนกู้อารมณ์พร้อมท้าความหนาว ณ ภูทับเบิก 2 วัน 1 คืน (3-4 พ.ย. 61) เราออกเดินทางกันแต่เช้าวันเสาร์มุ่งหน้าสู่ จ.เพชรบูรณ์ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงที่หมาย จากนั้นแวะซื้อของสดและอุปกรณ์นิดหน่อยที่บิ๊กซี เพื่อเอาไปทำสุกี้ทานกันคืนนี้ วู้ววู้ว น่าอร่อยเป็นที่สุด เดินไปเดินมากันอยู่นานหมดเวลาไปกับการช้อปปิ้งพักใหญ่ก็ออกเดินทางต่อจุดหมายปลายทางของเราคือภูทับเบิกนั้นเอง จริงแล้วภูทับเบิก เป็นชื่อของหมู่บ้านที่ชื่อ หมู่บ้านม้งทับเบิก โดยเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร บนภูเขาสูงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ใน ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า ชาวม้งที่นี่มีอาชีพทำการเกษตรเป็นหลัก พืชผักที่มีการปลูกมากที่สุด ก็คือกะหล่ำปลี ซึ่งมีการจัดสรรที่ดินทำกินสำหรับการปลูกกะหล่ำปลีหลายพันไร่บนยอดเขาสูง ระหว่างทางเจอพี่ๆน้องๆสายแว๊นคันเล็กคันใหญ่เต็มไปหมด ครึกครื้นดีมีเพื่อนร่วมทางเยอะเลย (", )
"เส้นทางหมายเลข 2331 ที่ขึ้นภูทับเบิกถนนชำรุดเป็นระยะโปรดใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ "

ประมาณ 1.30 ชั่วโมงเราก็มาถึงแล้ววววว ท้องเริ่มหิวแต่ยังหาที่กางเต็นท์ไม่ได้ แถมระหว่างทางผู้คนนั่งทานหมูกระทะกันเป็นแถวคิดในใจโหทำไมคนเยอะจังไม่ได้ตรงกับวันหยุดยาวซะหน่อย ดีนะเอาเต็นท์กับเตาปิกนิกมาเอง...อิอิสบายไป ขับรถวนไม่นานก็ได้ที่กางเต็นท์วิวดีซะด้วย (แถวไร่มะลิหอมเก่า) เสียค่าบำรุงสถานที่ไป 50 บาท บวกกับค่าไปขอรีสอร์ทใกล้ๆอาบน้ำ 100 บาท (สำหรับ 4 คน) เนื่องจากห้องน้ำที่กางเต็นท์ยังทำไม่เสร็จ !!!


และแล้วความมืดก็มาเยือนพร้อมกับอากาศที่เย็นลงมันหนาวเหมือนกันนะเนี่ย เตรียมอาหารทำทานกันดีกว่า ได้สุกี้ร้อนๆเข้าไปคงฟินเฟ่อร์ นั่งทานกันได้ไม่นานรู้สึกหนาวมว๊ากกกขนาดสุกี้ยังเย็นไปด้วย เช็คอุณภูมิดูตอนนั้นเพลาสามทุ่ม โอ้วแม่เจ้า 10 องศาถึงว่าหนาวจุง ก็เลยมานั่งกระจุ๊กกันเต็นท์เดียวนั่งดูดาว จิบไวน์ ฟังเพลงที่ชอบโหคือมันดีอะ อารมณ์ที่แย่ๆมาหายเป็นปลิดทิ้ง
ตอนนอนเกิดศึกแย่งชิงผ้าห่ม หนาวจนนอนไม่หลับฮ่าๆๆ (เตรียมอุปกรณ์เครื่องนอนมาให้พร้อมกันนะจ๊ะ) ภูทับเบิกนี่ขึ้นชื่อมากว่าก่อนขึ้นภูอากาศร้อนแค่ไหน อยู่บนยอดแล้วอากาศชั่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนะจะบอกให้ สุดท้ายเพื่อนเป็นฝ่ายชนะนางได้ผ้าห่มไปครอบครอง เฮ้ออออตรูก็หนาวนะเฟ้อ... เกือบ 6 โมงเช้าตื่นมาว้าวววพระอาทิตย์กำลังจะโผล่มาแล้ว นั่งดูอยู่ในเต็นท์ขอปรับอุณภูมิร่างกายแปบ ส่วนคนอื่นๆยังไม่ตื่นฟินอยู่คนเดียว
ทำธุระส่วนตัวเก็บอุปกรณ์กันเรียบร้อย กองทัพต้องเดินด้วยท้องหาข้าวทานสิจ๊ะรออาราย เราแวะทานไข่กระทะกับข้าวต้มกันที่บริเวณจุดชมวิวภูบักเบิก อิ่มแล้วไปต่อได้เดินไปชมวิวสวยๆซะหน่อยขับรถขึ้นมาขนาดนี้แล้ว แช๊ะภาพกันพอสมควรก็ได้เวลาอำลา
ลงมาเที่ยวเขาค้อต่อสักนิดไหว้พระเป็นสิริมงคลให้ชีวิตที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว (คลิกพิกัด GPS ที่นี่) ตั้งอยู่ในชัยภูมิธรรม ณ บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์การสร้าง
"เพื่อเป็นที่สอนปฏิบัติการเจริญสติปัฏฐาน ๔ ซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงชี้ว่าเป็นทางสายเอกที่นำไปสู่ความบริสุทธิ์ของกายและใจ ความดับทุกข์ การเข้าถึงมรรคและพระนิพพาน"
จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้ คือ เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต เจดีย์ที่ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยกระเบื้องหลากหลายสี เครื่องประดับ พลอย สร้อย กำไล ถ้วยชามเครื่องเบญจรงค์ เป็นต้น นำมาตกแต่งทีละชิ้นๆ จนทั่วองค์พระเจดีย์ รอบๆ องค์พระเจดีย์แบ่งเป็นสถานที่พักของนักปฏิบัติธรรม และเขตสังฆาวาส แยกเป็นสัดส่วน ที่สะดุดตากว่าสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งอื่นๆ เริ่มหิวกันอีกแล้วไปต่อตามเส้นทางสาย 12 มุ่งหน้าไปยัง จ.พิษณุโลก แวะทานข้าวที่ ร้านโรงเตี๊ยม ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เห็นชัดเจนมีป้ายบอกทาง ร้านนี้ขึ้นชื่อเมนูขาหมูหมั่นโถวอร่อยมากกกก ขาหมูอย่างใหญ่ส่วนอาหารจานอื่นๆก็รสชาติดีแนะนำๆ ราคาเหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป
เปิดบริการ 07.30 - 22.30
ต่อด้วยร้านกาแฟข้างๆ ROUTE 12 ร้านบรรยากาศตกแต่งแบบย้อนยุค (Retro) คล้ายปั๊มน้ำมันในต่างประเทศ ในร้านจะมีของสะสม ของเก่าเช่นมอเตอร์ไซค์รุ่นเก่า คลาสสิค ให้ได้ชม ได้ถ่ายรูปกัน ภายในร้านร่มรื่นเย็นสบาย เหมาะแก่การนั่งจิบกาแฟยามบ่าย
ต้องกลับสู่โลกความเป็นจริงแล้วซิ แต่ก็พักผ่อนมาเต็มที่แล้วเวลาน้อยก็เที่ยวได้ไม่ผิด concept อิอิ ระหว่างทางกลับกรุงเทพฯ อย่าลืมแวะซื้อของฝากคนที่บ้าน มะขามหวาน ปลาส้มไร่กำนันจุล ของเด็ดเมืองเพชรบูรณ์ด้วยน้าา
Comments